Croatian quenching dream England



ดับฝันอังกฤษ หลังโครเอเชียสุดฮึดไล่ตามอัดสิงโตคำรามร่วงในศึกฟุตบอลโลก 2018 ส่งผลได้เข้าไปชิงแชมป์กับฝรั่งเศส

แฟนบอลอังกฤษสุดช๊อก หลัง มาริโอ มานด์ซูคิชซัดประตูชัยให้ โครเอเชีย เขี่ยอังกฤษลงไปชิงที่ 3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2 – 1 หลังที่เสมอกันในเวลาปกติ 1 – 1 ส่งผลให้ทีม ตารางหมากรุก ขึ้นไปเข้าชิงชนะเลิศสมัยแรก ที่ต้องพบกับทีมฝรั่งเศส ในวันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม นี้ ส่วนทีมสิงโตคำรามตกรอบมาชิงที่ 3 กับทีมชาติ เบลเยียม ในวันเสาร์ที่ 14 ก.ค. นี้เช่นกัน

เริ่มเกมด้วยการเปิดฉากเพียงแค่ 5 นาที แฟนบอลอังกฤษก็ได้เฮกันลั่นสนาม หลังจากที่ คีแรน ทริปเปียร์ ยิงฟรีคิกสุดสวย ในระยะ 25 หลา จากการถูกทำฟาวล์ จาก ลูก้า โมดริช ทำให้อังกฤขึ้นนำไปก่อน 1 – 0

หลังจากนั้นอีกไม่นาน สิงโตคำราม ก็เปิดเกมบุกใส่อย่างต่อเนื่อง และเป็นฝ่ายที่ครองบอลได้เยอะกว่า ทำให้ในนาทีที่ 14 อังกฤษได้ทำเสียวอีกครั้ง หลังจากที่ได้เตะมุม แล้วแฮร์รี่ แม็กไกวร์ ขึ้นโหม่ง โดนบอลแต่ไม่เข้ากรอบผ่านหน้าประตูไปแบบฉิวเฉียด

ต่อมาในนาทีที่ 19 ทางทีม ตารางหมากรุกได้ทักทายคู่แข่งบ้าง จากลูกยิงนอกกรอบเขตโทษของ อิวาน เปริซิช แต่บอลหลุดกรอบไปแบบได้ลุ้นเป็นประตู

มาถึงนาทีที่ 30 ทางอังกฤษ เกือบได้ประตูทิ้งห่าง จาก แฮร์รี่ เคน ที่ได้หลุดเดี่ยวไปหน้าปากประตูของทีมโครเอเชียแบบโล่งๆ แต่ทางด้านนายทวาร ดานิเยล ซูบาชิซ สามารถบล็อกลูกออกมาได้ ซึ่งทำให้ แฮร์รี่ เคน คนเดิมมีโอกาสยิงซ้ำแต่บอลดันไปชนเสาร์แล้วเด้งมาโดนขาของผู้รักษาประตูของโครเอเชียแล้วบอลก็หลุดออกหลังไป ซึ่งในจังหวะนี้ทางไลน์แมนได้ยกธงล้ำหน้าก่อนแล้ว ถึงแม้ว่าจะดูซ้ำจากภาพช้า ว่าเคนไม่ได้อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก็ตาม

ในนาทีที่ 32 ทางด้านของทีมของโครเอเชียได้ลุ้นอีกครั้ง จากการยิงของ อันเต้ ราบิช แต่บอลพุ่งไปตรงตัวของจอร์แดนฟิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูของทางอังกฤษ ที่รับลูกได้อย่างสบายๆ เกมต่อเนื่องไปจนถึงนาทีที่ 36 ทางทีมชาติ อังกฤษเกือบทำประตูได้อีกครั้ง หลังจากที่ เจสซี่ ลินการ์ด ได้โอกาสยิงโล่งๆ ในระยะ 20 หลา แต่บอลดันไม่ตรงกรอบทำให้จบครึ่งแรก ด้วยสกอร์ที่ อังกฤษโครเอเชียไป 1 – 0

ต่อมาครึ่งหลัง โครเอเชีย เดินเกมรุกหนัก ด้วยความหวังที่จะทำประตูตีเสมอให้ได้ แต่ก็ไม่มีโอกาสดีๆ ให้ทำประตูได้ ทว่ากลับกลายเป็นทีมทของ สิงโตคำราม ที่ได้โอกาสทำประตูจากลูกที่เปิดบอลเข้ามาหน้าประตูจาก ทริปเปียร์ แต่ทางแฮร์รี เคน พุ่งโขกไม่ถึงบอล

นาทีที่ 65 โครเอเชีย กลับมาได้ลุ้นอีกครั้งในจังหวะที่ อิวาน เปริซิช ได้กดบอลไปอย่างเต็มแรง แต่ก็ไม่ผ่านไคล์วอล์คเกอร์ ที่สามารถบล็อกลูกเอาไว้ได้ทำให้เจ้าตัวถึงกับจุกกันเลยทีเดียว

ผ่านมาไม่นาน โครเอเชียก็สามารถตีเสมอได้สำเร็จ ในนาทีที่ 68 จากจังหวะของ ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้ เปิดบอลไปถึงหน้าประตูและเป็น อิวาน เปริซิช ที่เข้ามาสอดขึ้นแล้วดีดบอลเข้าโกงตุงตาข่ายได้อย่างสุดแสบ

จากการทำประตูตีเสมอได้ ทางสิงโตคำราม ก็ดูเหมือนจะช็อตไปแบบดื่อๆ ซึ่งนั้นทำให้ทีมของ โครเอเชียเกือบได้ประตูพลิกนำในนาทีที่ 72 เกมเดินจนถึงนาทีที่ 83 ก็ยังเป็นทางโครเอเชียที่เกือบได้ลุ้นประตูอีกครั้ง จนกระทั่งครบ 90 นาที มีสกอร์เสมอกัน 1 – 1 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที

เปิดเกมต่อเวลาพิเศษทั้งคู่ต่างระวังการเล่นของทีมตรงข้าม เล่นกันอย่างรอบครอบ เนื่องจากนักเตะเริ่มแสดงความเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด แต่ในนาทีที่ 99 ทางทีมชาติอังกฤษก็เกือบได้ประตูเพิ่มจากลูกเปิดมุมจาก ทริปเปียร์ เข้ามากลางประตู ซึ่งเป็นจอห์น สโตนส์ ได้โหม่งโดนบอลไปเต็มๆ แต่ เวอร์ซัลจ์โก้ โหม่งสกัดเอาไว้ได้

ในนาทีที่ 108 โครเอเชียก็ได้ลุ้นทำประตูเพิ่มอีกครั้งจาก ลูกเตะมุมของ โมดริช เปิดบอลเข้ามาหน้าประตูและเป็น โบรโซวิช ที่ได้ซัดบอลอย่างเต็มแรง แต่ไม่ตรงกรอบ บอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

ผ่านมาอีกแค่ 1 นาที โครเอเชียก็ได้ประตูขึ้นนำจาก อิวาน เปริซิช ที่โหม่งเข้าประตูในกรอบเขตโทษ และเป็นมานด์ซูคิชที่เข้ามายิงด้วยเท้าซ้ายเข้าประตูไปเป็นที่เรียบร้อย ส่งผลให้ทีมโครเอเชียขึ้นนำเป็น 2 – 1

ต่อมาในนาทีที่ 120 ทางโครเอเชียเกือบได้ประตูเพิ่มอีกครั้งโดยจังหวะที่ อันเดรย์ ครามาริช เลี้ยงบอลพาเข้าไปในเขตโทษ และเลือกยิงเองแต่บอลไม่เข้ากรอบ

เมื่อเวลาครบ 120 นาที กรรมการเป่านกหวีดจบเกมส่งผลให้ทีมชาติโครเอเชียผ่านเข้ารอบไปชิงที่ 1 กับทีมชาติฝรั่งเศส และทีมชาติอังกฤษต้องตกรอบไปชิงได้แค่ที่ 3 กับทีมชาติเบลเยียมเท่านั้น







This website was created for free with Own-Free-Website.com. Would you also like to have your own website?
Sign up for free